Saturday, April 23, 2011

Prin Niamskul


จากซ้ายไปขวา: น้ำมนต์ เพชร ปฤณ เตย


เนื่องจากเจ้าน้ำมนต์ได้ระบุไปแล้วว่ามันอยากเป็นที่จดจำในฐานะหญิงแกร่งแทนที่จะมีคนมาสงสาร ดังนั้น แทนที่จะเขียนบทความอาลัย นี่จึงเป็นบทความเผาประวัติเกรียนของเจ้าน้ำมนต์ในความทรงจำของพี่ๆน้องๆแทน ซึ่งหวังว่า ถ้ามันเกิดรู้ได้ภายหลังเข้าสู่โลกแห่งความตาย มันจะได้สะดุ้งโหยงสักเล็กน้อย (และจากที่มันอุตส่าห์มาเข้าฝันตอนตี 2 วันที่ 19 เมษายน 2554 และตื้บผมไปแล้ว ผมถือว่ามันอนุญาตให้ผมเอาบทความอำลานี้ลงประจานก็แล้วกัน)

ครอบครัวของน้ำมนต์มีการตั้งสมญาพ่อ-แม่-ลูก เป็น พ่อหมี แม่หมู ลูกหมา และพอมีน้องคนสุดท้องก็ได้ฉายาเป็นตูดลิง ตามแบบเจ้าน้ำมนต์ว่า ในฐานะพี่ใหญ่ของรุ่น ก็คงจะต้องขอกล่าวถึงเจ้าลูกหมาสุดแสบตัวนี้ตามธรรมเนียมสักหน่อย

ผมเห็นเจ้าน้ำมนต์มาก็ตั้งแต่เด็ก (แหงละ เพราะเป็นพี่ใหญ่นิ) น้ำมนต์เป็นเด็กที่ประหลาดพิศดารชวนแก่การล้อเลียนอยู่มิใช่น้อย นั่นคือ มันเป็นเด็กที่ติดโรงเรียนมาก ในขณะที่พี่น้องญาติโกโหติกานั้น จะหาคนชมชอบการเรียนเป็นไม่มี มันเป็นคนที่ถึงกับไปโรงเรียน”เล่น” ใน วันเสาร์-อาทิตย์ หรือวันปิดเทอมที่เด็กๆจะเที่ยวเล่นสนุกไปวันๆ มันยังถึงกับเป็นเด็กที่อาจ สามารถได้คะแนนเต็มเป็นปรกติ ถึงขนาดว่ามันยังเคยร้องไห้ที่ทำข้อสอบผิดไปเพียง 1 ข้อเท่านั้น นี่มันเป็นมนุษย์กรรมพันธุ์เดียวกับพวกผมแน่หรือนี่

เจ้าน้ำมนต์นี้ ในสมัยยังเล็กเป็นเด็กแสบที่ขี้ฟ้องเป็นอย่างมาก ตรงนี้ก็อาจเป็นเพราะความเกรียนของเหล่าพี่น้องคนอื่นๆที่เห็นคนเรียนเลิศ (ไม่ใช่แค่ดี แต่ เลิศ) แล้วก็เลยอิจฉาไม่ยอมเล่นด้วย และก็อีกส่วนหนึ่งคือน้ำมนต์เป็นหลานรักคุณย่าที่ได้รับการโอ๋เป็นอย่างดี มีอะไรเจ้าน้ำมนต์ก็จะไปฟ้องย่า แถมบางทียังกุเรื่องฟ้องปกปิดที่ตัวเองหกล้มร้องไห้ด้วย จนถึงกับต้องมีการประชุมสภาเผ่า (สภาหลานเนียมสกุล โดยมีไอ้คนเขียนบทความนี้เป็นหัวโจก) บอยคอตเจ้าน้ำมนต์ออกกันเลยทีเดียว หลังจากมีการเจรจาต้าอ้วยกันแล้ว เจ้าน้ำมนต์ก็ยอมที่จะเลิกฟ้อง แต่ก็เหมือนกรรมตามสนอง เมื่อมีเจ้าเพชร เกิดมา เจ้าเพชรก็ขี้ฟ้องพอกันหรือจะเรียกว่าหนักกว่าก็ไม่ทราบ เพราะมันเลือกกุเรื่องฟ้องเฉพาะน้ำมนต์เท่านั้นและเจ้าน้ำมนต์ก็ต้องใช้ที่ประชุมสภาเผ่าในการบอยคอตอีกครั้ง

เจ้าน้ำมนต์นี้เป็นเด็กที่รักษาสัญญา และมีความพยายามดีเลิศเหนือมนุษย์มนา ความพยายามในการเรียนของมันนี้ นอกเหนือจากความชอบส่วนตัว มันยังถึงกับมีการใช้ผลการเรียนบีบบังคับคุณพ่อหมีให้เลิกเหล้าอีกด้วย โดยมันมีสัญญาไว้ว่าถ้ามันได้ประกาศนียบัตรผลการเกรียนดีเลิศแล้ว พ่อหมีต้องเลิกเหล้า ทั้งนี้ คุณพ่อหมีก็สัญญาไป พอได้จริงเข้าก็บ่ายเบี่ยงไปใบที่สอง ใบที่สาม จนเจ้าน้ำมนต์ได้ประกาศนียบัตรผลการเกรียนดีเลิศครบ 6 ใบในระดับประถม 6 ใบในระดับมัธยม มันก็ยังพยายามเรียนและเอาผลการเรียนไปบังคับคุณพ่อหมีให้เลิกเหล้าอยู่นี่เอง ซึ่งในที่ประชุมสภาเผ่าไม่เคยมีใครมีความพยายามได้ถึงขนาดนั้น และสมมุติได้เกรียนติบัตรใดๆขึ้นมา พวกเราย่อมคงเอาไปแลกเป็นของเล่น แล ทุนรอนเที่ยวเล่นต่างๆเป็นแม่นมั่น ของโปรดของน้ำมนต์ นอกจากการศึกษาแล้ว คือของหวาน มันเป็นคนที่ให้นิยามทางชีววิทยาไว้ว่า มนุษย์เรามีสองกระเพาะ กระเพาะแรกสำหรับของคาว กระเพาะที่สองสำหรับของหวาน แน่นอนว่ามันได้ทำการพิสูจน์จนจากเด็กเปี๊ยกน่ารักเหมือนลูกหมา กลายเป็นมนุษย์ทรงกระบอก แต่อย่าคิดว่ามันจะเป็นคนเชื่องช้า น้ำมนต์มีความพยายามในการบริโภคของหวานเป็นเลิศเช่นกัน มันย่อมอาจไปวิ่งออกกำลังเพื่อเสริมสร้างกระเพาะที่สอง (เพิ่มที่ว่างในกระเพาะ) เพื่ออาจกินของหวานเพิ่มได้

เจ้าน้ำมนต์นี้เอง ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องกรรมพันธุ์แล้ว มันย่อมคงเป็นอาจารย์หญิงถึกทรหดที่จะสร้างสมทายาทการศึกษาได้อย่างมากมาย และก็คงมีวีรเวรวีกรรมที่จะสร้างชื่อเสีย(ง)ให้กับเหล่าหลานปู่ประหยัด ย่าจินดาสิริเป็นมากมาย ผมจะพยายามคิดว่าที่มันล่วงหน้าไปก่อนนี้ มันคงไปรอเกิดใหม่เป็นหลานคนโตเสียมากกว่า เพราะด้วยความถึกทนทรหดมานะบากบั่นขนาดนี้ มันย่อมจะเป็นพี่ใหญ่ของตระกูลที่เป็นที่พึ่งพาแก่น้องๆหลานๆได้ดีเป็นแน่ และในคราวโน้น ไว้ผมจะเป็นเด็กขี้ฟ้องเล่นงานเจ้าน้ำมนต์ในชาติโน้นก็แล้วกัน
ผมคิดว่า สวรรค์ของทุกคนไม่เหมือนกัน สำหรับมัน สวรรค์คงเต็มไปด้วย Earth Quake, Rocky road, Hot fudge และ Butter Scotch ที่กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน แต่บางที สวรรค์สำหรับมันอาจเป็นบ้านไม้และสวนป่าที่สามารถจัดบาร์บีคิวกินเลี้ยงได้ตลอดคืนก็เป็นได้

แล้วเจอกันใหม่ เมื่อเวลามาถึง

ปฤณ เนียมสกุล
(พี่ใหญ่ ของบ้านเนียมสกุล)

No comments:

Post a Comment