Monday, April 25, 2011

Krittiya Mala

ถึงน้องน้ำมนต์


     พี่คิดอยู่ตั้งนานว่าจะเขียนอะไรดี เพราะนึกถึงทีไรก็น้ำตาไหล  น้ำมนต์เป็นคนแรกๆ ที่พี่ได้รู้จักตั้งแต่พี่ย้ายมาอเมริกาเมื่อสี่ปีก่อน ต้องขอบคุณที่น้ำมนต์เป็นรูมเมทกับพี่เอื้อยซึ่งทำให้เราได้เจอกัน   พี่คิดอยู่เสมอว่าน้องน้ำมนต์เป็นคนเก่งมาก สามารถทำได้หลายๆอย่างที่พี่ทำไม่ได้ อย่างเช่นเรียนฟิสิกส์หรือไป hike ระยะทางไกลๆ แถมยังเก่งภาษาอังกฤษมาก พี่ชื่นชมน้องอยู่เสมอ

     พี่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว  ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก  พี่หวังไว้เสมอว่าน้องน้ำมนต์ต้องหายขาด ทุกอย่างมันต้องดีขึ้น  วันที่เราขับรถไป hike กันกับน้องม็อค พี่แพม กิ๊ฟ ต้า น้องน้ำมนต์อาสาขับรถให้พี่เพราะน้ำมนต์เมารถง่าย เป็นวันที่พี่ได้รู้  น้ำมนต์ได้บอกพี่ว่ามะเร็งได้ลามไปที่ต่างๆแล้ว คงรักษาไม่หายแล้ว พี่ช็อคมาก พูดไม่ออก น้ำตาก็เริ่มจะไหล แต่น้องน้ำมนต์มีกำลังใจและเข้ม แข็งมาก หันมาถามพี่ว่า พี่ติ๊กเป็นอะไร น้ำมนต์ไม่เป็นอะไรหรอก และพยายามชวนคุยเรื่องอื่นๆ เพื่อให้พี่ไม่ต้องคิดมาก   น้องน้ำมนต์เข้มแข็งมาก เข้มแข็งกว่าพี่อีก

     น้องน้ำมนต์เป็นคนร่าเริง สนุกสนาน พี่ชอบฟังเวลาน้ำมนต์เล่าเรื่องมันได้อารมณ์มาก ขอบคุณที่โทรมาถามพี่เสมอว่าเอาแลคตาซอยไหมเวลาที่น้ำมนต์ไปไทยทาวน์ ขอบคุณที่พาพี่ไปศูนย์ radiology และได้แนะนำทางลัดให้ด้วย ขอบคุณที่ฟังเรื่องไร้สาระของพี่และจอห์น น้ำมนต์เคยบอกพี่ว่าน้ำมนต์จะอยู่ถึงวันพี่แต่งงานอยู่นะ พี่อยากให้น้ำมนต์อยู่ถึงจริงๆ และขอบคุณที่เป็นตัวอย่างให้พี่และคนอื่นๆได้เห็นว่า การใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าและมีความหมายเป็นอย่างไร น้องน้ำมนต์เข้มแข็งต่อสู้มาโดยตลอด ไม่เคยแสดงความอ่อนแอหรือท้อแท้ให้เห็น  พี่จะคิดถึงและเก็บน้ำมนต์ไว้ในใจตลอดไปนะ


รัก


พี่ติ๊ก

No comments:

Post a Comment